กระบวนการทำงาน
ESCO มุ่งเป้าไปที่โซลูชัน “win-win” เสมอโดยร่วมมือกับผู้ให้บริการหน่วยงานภาครัฐและผู้ขนส่งและใช้ขั้นตอนมาตรฐานสากลในบริการระบบงานคอนเทนเนอร์ทั้งหมด โดยคำนึงถึงความคาดหวังที่เพิ่มมากขึ้นของลูกค้า บริษัทนั้นมีการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องด้วยการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเชิงกลยุทธ์และการปรับปรุงกระบวนการ ด้วยกระบวนการที่ยึดมั่นอย่างเคร่งครัดในกฎหมายไทยและแนวทางปฏิบัติที่ดีระดับโลกจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่คาดเดาได้
การบริหารจัดการหน้าท่าเทียบเรือ
สายการเดินเรือหรือตัวแทนจะต้องส่งอีเมลถึงรายละเอียดของเรือ การจัดการ Lashing ตู้คอนเทนเอนร์ของเรือและรายละเอียดต่างๆของเรือ (Stowage Plan,Lashing Plan,Reefer Arragement Plan) ไปยัง ESCO Planner อย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนเพื่อที่จะให้ระบบ CASP (Computer Automated Stowage Planning) คำนวณความเป็นไปที่จะเรือจะเข้าเทียบท่าและทำงานที่ท่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สายการเดินเรือหรือตัวแทนเรือจำเป็นต้องส่งข้อมูลการเช้าเทียบท่าในช่วงรอบ 1 เดือนให้กับ ESCO Planner เพื่อที่จะจัดการการเข้าเทียบเรือและในระยะยาวรวมไปถึงการจัดการ Booking ตู้สินค้าที่จะเข้ามาใช้บริการต่อไป
ช่วงก่อนเวลา 7 วัน 3 วัน และ 1 วัน ก่อนเรือจะมาถึงท่าผู้ให้บริการ Shipping Line หรือเอเจ้น จำเป็นต้องแจ้งอัพเดทเวลาที่เรือจะเข้าท่า (ETA) และประมาณการจำนวนตู้สินค้าที่จะนำลงเรือ และ ขึ้นเรือ (Discharge And Load) เพื่อให้ ESCO Planner ยืนยันเวลาเทียบท่า (ETB) และเวลาเรือออก (ETD)ได้
เวลาปิดรับคืนตู้
- ตู้หนักทั่วไปที่บรรทุกโดยหัวลากต้องนำตู้เช้ามาในท่าก่อน 24 ชั่วโมงจากเวลาเรือเทียบท่า (ETB)
- ตู้คอนเทนเนอร์ชนิดตู้เย็นที่เป็นสินค้าประเภทผลไม้ควรนำมาในท่าก่อน 1 ชั่วโมงก่อนเวลาเรือเทียบท่า (ATB)
- ตู้คอนเทนเนอร์ชนิดตู้เย็นที่เป็นสินค้าทั่วไปต้องนำส่งเข้ามาในท่าเรือ 12 ชั่วโมงก่อนเวลาเรือเทียบท่า (ATB)
- หากเป็นสินค้าตู้คอนเทนเนอร์ประเภทสินค้าอันตราย ต้องมีการจัดการขนย้ายโดยตรงจาก หากลาก ไปยังเรือ
เวลาการทำงานของโกดังจัดเก็บสินค้า (CFS)
วันจันทร์-ศุกร์ เวลา 8:00-17:00 หากต้องการแจ้งการทำงานล่วงเวลา ต้องแจ้งก่อนเวลา 16:00 ของวันทำงานวันนั้นๆ
เวลาปิดรับสินค้าของโกดังจัดเก็บสินค้า (Closing Time) ของส่วนงานท่าเรือแหลมฉบัง คือ 30 ชั่วโมงก่อนเวลาเรือเข้าเทียบ (Berthing Time)
เวลาปิดรับสินค้าของโกดังจัดเก็บสินค้า (Closing Time) ของส่วนงานลานตู้ลาดกระบัง(ICD) คือ 6 ชั่วโมงก่อนเวลา CY Cutoff Time
สินค้า CFS/LCL
ESCO สามารถรองรับสินค้า CFS/LCL ดังต่อไปนี้
- สินค้าที่ได้รับการบรรจุมาในลังหรือแพเล็ตที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4.5 ตัน และสามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยรถฟอร์คลิฟต์
- หากการเคลื่อนย้ายสินค้าต้องใช้เครื่องมือพิเศษ จะมีการเก็บค่าธรรมเนียมปฏิบัติการเพื่อเติมตามแต่กรณี
- รับดำเนินการสินค้า CFS/LCL เฉพาะตู้สินค้าที่บรรจุแบบรวมตู้ (Consolidated Container) เท่านั้น
ESCO สินค้าที่ไม่เข้าข่ายและไม่รองรับสำหรับงาน CFS/LCL handle the following CFS/LCL cargo:
- สินค้าทีอาจสร้างมลภาวะภายในท่าเทียบเรือหรือคลังสินค้า เช่น สินค้าที่มีลักษณะเป็นผงแป้ง หรือสารเคมีที่มีฤทธิ์กดกร่อน
- สินค้ามูลค่าสูงหรือมีน้ำหนักมาก ตัวอย่างเช่น รถยนต์ รถตู้ รถกระบะ หรือเครื่องจักรต่างๆ
- สินค้าที่มีน้ำหนักไม่เกิน 4.5 ตัน แต่ไม่ได้รับการบรรจุมาในลังหรือแพเล็ต เช่นแท่งเหล็ก
- สินค้าต้องห้ามโดยหน่วยงานของรัฐ ตัวอย่างเช่น สินค้าอันตราย (DG)
- อุปกรณ์ขนาดใหญ่ หรือสินค้าที่มีน้ำหนักไม่สมดุล หรือสินค้าพิเศษอื่นๆ ที่ไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ด้วยรถฟอร์คลิฟต์ หรือ ต้องการอุปกรณ์พิเศษในการเคลื่อนย้าย
- ESCO ขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธการจัดหาเครื่องมือและแรงงานในการเคลื่อนย้ายสินค้าบางปรเภท โดยในกรณีดังกล่าวเจ้าของสินค้าต้องจัดเตรียมอุปกรณ์และแรงงานเพื่อทำการเคลื่อนย้ายสินค้าด้วยตนเอง
ระเบียบการใช้งานบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากไม้ที่ประเทศปลายทาง
- หากประเทศปลายทางกำหนดให้ใช้ไม้ที่ผ่านการอบยาในการสร้างบรรจุภัณฑ์ สายการเดินเรือต้องแจ้งต่อ ESCO ทันทีที่มีการจองพื้นที่ระวาง
การรับผิดชอบต่อสินค้าและบริการ
- ในกรณีที่สินค้าได้รับความเสียหายระหว่างการนำสินค้าออกจากตู้สินค้าโดย ESCO รวมทั้งระหว่างการยกขนสินค้าขึ้นบรรทุก และมีหลักฐานชัดเจนว่าความเสียหายเกิดจาก ESCO เราจะชดใช้ค่าเสียหายแก่เจ้าของสินค้าหรือผู้รับมอบกรรมสิทธิ์ในสินค้า เป็นจำนวนเงินไม่เกิน 50,000 บาทต่อสินค้า และไม่เกิน 500,000 ต่อตู้สินค้า
- หากสินค้าเสียหายหรือสูญหายก่อนที่จะเข้ามาอยู่ในความดูแลของ ESCO เราจะไม่รัรบผิดชอบใดๆทั้งสิ้น
- หลังจากที่ ESCO นำส่งสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในสภาพที่ผู้รับมีความพึงพอใจสูงสุด ESCO จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่ตรวจพบหลังการนำส่งสินค้า
- บุคคลผู้ลงลายมือชื่อรับสินค้าในเอกสารนำส่งสินค้าแทนลูกค้า ถือว่าเป็นผู้รับและทำหน้าที่แทนลูกค้าแล้ว ESCO จะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆที่เกิดขึ้นหลังจากนำส่งสินค้าถึงผู้รับสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
กฏข้อบังคับสำหรับการปฏิบัติการเรือขนส่งสินค้า
- กัปตันหรือต้นเรือมีหน้าที่รับผิดชอบตรวจสอบและร่วมการตรวจสอบความเรียบร้อยของทรัพย์สินของท่าเทียบเรือ ESCO ร่วมกับเจ้าหน้าที่ของ ESCO ว่าไม่มีความเสียหายจากการกระทบกระแทก อันเกิดจาการการเทียบท่าเรือและตลอดระยะเวลาที่เรือเทียบท่าอยู่ที่ท่าเทียบเรือ
- จัดเตรียมสะพานเทียบเรือพร้อมราวจับและตาข่ายกันตก ทันทีที่เรือเข้าเทียบท่า
- กัปตันหรือต้นเรือมีหน้าที่รับผิดชอบควบคุมปฏิบัติการเคลื่อนย้ายหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเครนเรือในกรณีที่จำเป็น เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติการของท่าเรือให้ดำเนินการได้อย่างลื่นไหล และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายจากการกระทบกระแทก ระหว่างเครนยกตู้สินค้าของ ESCO และเครนเรือ เรือบรรทุกสินค้าต้องได้รับการอนุมัติจากเจ้าหน้าที่ของ ESCO ก่อนทำการเคลื่อนย้ายหรือปรับเปลี่ยนตำแหน่งของเครนเรือ
- กัปตันหรือต้นเรือมีหน้าที่รับผิดชอบจัดเตรียมอุปกรณืผูกรัดอย่างเหมาะสมและเพียงพอ หากมีการร้องขอโดยบุคคลากลากรของ ESCO และกัปตันหรือต้นเรือต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดว่ามีการผูกรัดอย่างแน่นหนาดีแล้ว และหากไม่พึงพอใจการการผูกรัดใดๆ ต้องแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ผู้กำกับดูแลของ ESCO ทันที หากมีค้าใช้จ่ายส่วนเกินอันเกิดจากความล่าช้าหรือปรับเปลี่ยนเวลาออกเรือ เนื่องจากจำเป็นต้องมีการแก้ไขกระบวนการผูกรัดในช่วงสุดท้ายก่อนการออกเดินเรือ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้จะเรียกเก็บไปยังตัวแทนเรือ
- กับตันหรือต้นเรือมีหน้าที่รับผิดชอบในการดูแลความมั่นคงของเรือ รวมถึงตรวจสอบความแน่นหนาของเชื่อกผูกเรือ ตามความเป็นจริง ตลอดเวลาที่เรือเทียบท่า
- ลูกเรือและผู้โดยสารบนเรือบรรทุกสินค้าต้องติดต่อเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของ ESCO ก่อนเข้ามาในพื้นที่ท่าเรือ
- ห้ามเรือบรรทุกสินค้าปล่อยควันออกจากปล่องควันโดยมากเกินความจำเป็น
- ห้ามเรือบรรทุกสินค้าทำน้ำมันหกล้นลงสู่ทะเลหรือบริเวณไกล้เคียงพื้นที่ปฏิบัติงาน
- ห้ามไม่มีขีดเขียน พ่นหรือท่าสีใดๆ ในบริเวณท่าเทียบเรือโดยเด็ดขาด
กฏระเบียบภายในท่าเรือ
- ผู้เยี่ยมชมไม่สามารถเข้าไปในพื้นที่ท่าเรือได้ หากไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของ ESCO
- ผู้เยี่ยมชมต้องติดต่อกับฝ่ายสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัยของ ESCO เพื่อรับชุดนิรภัยที่สามารถสังเกตุได้ง่าย
- ผู้เยี่ยมชมต้องปฏิบัติตาป้ายคำสั่ง ป้ายห้าม และป้ายเตือนอย่างเคร่งครัด และต้องสวมหมวกนิรภัยตลอดเวลา
- ผู้เยี่ยมชมที่เข้าไปในพื่นที่ท่าเรือจากบริเวณหน้าท่าหรือจากเรือบรรทุกสินค้า ต้องเดินบนทางเดินที่จัดไว้ให้บริเวณรั้วเท่านั้น ห้ามเดินลัดผ่านลานตู้สินค้าเด็ดขาด
- การบันทึกภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนใหวภายในพื่นที่ท่าเรือต้องได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ของ ESCO ก่อนเท่านั้น
- จำกัดความเร็วของยานพาหนะในบริเวณลานตู้สินค้าที่ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
- ผู้ขับขี่ยานพาหนะภายในเขตท่าเรือทุกคน ต้องปฏิบัติตามกฏจราจรและกฏระเบียบด้านความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด และไม่อนุญาตให้ออกจากยานพาหนะโดยไม่ได้รับอนุญาต
- ห้ามจอดยานพาหนะทุกชนิดกีดขวางเส้นทางการปฏิบัติงานของเครื่องจักร หรือจดยานพาหนะในพื้นที่ปฏิบัติงาน
- ผู้เยี่ยมชมทุกคนที่หน้าที่แจ้งข้อมูลที่อาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของเรือและท่าเรือระหว่างประเทศ (ISPS Code) ต่อเจ้าหน้าที่ของ ESCO
- การฝ่าฝืนข้อห้ามอาจนำไปสู่การยกเลิกการอนุญาตให้เรือเข้าเทียบท่า
สำหรับผู้มาติดต่อภายในท่าเรือ
การขออนุญาตเข้าพื้นที่ชั่วคราว
ผู้เยี่ยมชมที่ต้องการเข้าไปในอาคารอำนวยการหรืออาคารปฏิบัติงานของท่าเทียบเรือ ต้องติดต่อสำนักงานรักษาความปลอดภัยที่ประตูด้านหน้าท่าเทียบเรือเพื่อแลกเปลี่ยนบัตรประจำตัว (ID) เป็นบัตรผู้เยี่ยมชม
การขอนุญาตเข้าพื่นที่ถาวร
ตัวแทนที่ต้องการบัตรอนุญาตเข้าพื้นที่ของ ESCO อย่างถาวร สำหรับการติดต่ออาคารอำนวยการของ ESCO โปรดติดต่อและกรอกแบบฟอร์มลงทะเบียนที่สำนักงานฝ่ายบุคคล
การเข้าไปยังพื้นที่ท่าเทียบเรือและขึ้นเรือ
บุคคล(ยกเว้นตัวแทน) ที่ต้องการเข้าไปยังพื้นที่ท่าเทียบเรือหรือขึ้นบนเรือที่เทียบท่าอยู่ ต้องส่งแบบฟอร์มขออนุญาตเข้าพื้นที่ที่มีลายเซ็นของตัวแทนให้กับสำนักงานสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัยของ ESCO เพื่ออนุญาตเข้าพื้นที่ปฏิบัติการ
การทำงานในพื้นที่ท่าเทียบเรือ
บุคคลที่ต้องทำงานในพื้นที่ท่าเทียบเรือ ต้องกรอกแบบฟอร์มอนุญาตทำงานของ ESCO และส่งให้สำนักงานสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัย
การเข้าพื้นที่ท่าเทียบเรือของลูกเรือ
ลูกเรือที่ต้องการเข้าไปยังพื้นที่ท่าเรือ ต้องติดต่อหน่วยงานรักษาความปลอดภัยที่บริเวณท่าเรือ เพื่อลงทะเบียนและแลกบัตรประจำตัวเพื่อเข้าพื้นที่
สติ๊กเกอร์รถสำหรับตัวแทน
ตัวแทนที่ต้องการสติ๊กเกอร์ติดรถยนต์สำหรับเข้าไปในอาคารอำนวยการ ต้องลงทะเบียน พร้อมส่งมอบสำเนาใบขับขี่และสำเนาทะเบียนรถให้กับสำนักงานสิ่งแวดล้อม สุขภาพ และความปลอดภัยของ ESCO
แผนกเอกสาร
กระบวนการทำงานของ Ship Planner
เอกสารเรือขาเข้า
สายการเดินเรือหรือตัวแทนต้องส่ง EDI (Electronic Data Interchange / Baplie / CASP) และรายการสินค้าพิเศษให้กับ ESCO Planner ล่วงหน้า 12 ชั่วโมง ก่อนเวลาที่คาดว่าเรือจะเดินทางมาถึง (ETA) และ สายการเดินเรือต้องส่งบัญชีสินค้า บัญชีตู้สินค้าขาเข้า บัญชีสินค้าอันตรายและสินค้าพิเศษให้กับสำนักงานเอกสารของ ESCO
เอกสารเรือขาออก
- สายการเดินเรือหรือตัวแทนต้องส่งยอดจองล่วงหน้า (Pre-Loading Plan) และวิธีการจัดเก็บสินค้า (Special Stowage Instructions) แก่ ESCO Planner ล่วงหน้า 12 ชั่วโมง ก่อนเวลาที่คาดว่าเรือจะเดินทางมาถึง (ETA)
- สายการเดินเรือหรือตัวแทนส่งออกต้องส่งเอกสาร Final Loading List และ Final Loading Summary แก่ ESCO Planner ล่วงหน้า 12 ชั่วโมง ก่อนเวลาที่คาดว่าเรือจะเดินทางมาถึง (ETA) เพิ่มเติมจาก Final Loading Plan (ถ้ามี)
- หลังเวลาปิดรับตู้สินค้า (Cutoff Time) ของลานตู้สินค้า สายการเดินเรือหรือตัวแทนต้องส่งบัญชีตู้สินค้าที่ยกเลิกให้กับ ESCO Planner โดย เวลาปิดรับตู้สินค้าจะยึดตามระเบียบของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
- ในกรณีที่ท่าเทียบเรือเต็ม สายการเดินเรือหรือตัวแทนต้องส่งบัญชีตู้สินค้ารอเข้าให้กับ ESCO Planner เพื่อป้องกันการล่าช้าและยกเลิกตู้สินค้า
กระบวนการจอง Booking
กระบวนการทำงานของ Ship Planner
เอกสารเรือขาเข้า
สายการเดินเรือหรือตัวแทนต้องส่ง EDI (Electronic Data Interchange / Baplie / CASP) และรายการสินค้าพิเศษให้กับ ESCO Planner ล่วงหน้า 12 ชั่วโมง ก่อนเวลาที่คาดว่าเรือจะเดินทางมาถึง (ETA) และ สายการเดินเรือต้องส่งบัญชีสินค้า บัญชีตู้สินค้าขาเข้า บัญชีสินค้าอันตรายและสินค้าพิเศษให้กับสำนักงานเอกสารของ ESCO
เอกสารเรือขาออก
- สายการเดินเรือหรือตัวแทนต้องส่งยอดจองล่วงหน้า (Pre-Loading Plan) และวิธีการจัดเก็บสินค้า (Special Stowage Instructions) แก่ ESCO Planner ล่วงหน้า 12 ชั่วโมง ก่อนเวลาที่คาดว่าเรือจะเดินทางมาถึง (ETA)
- สายการเดินเรือหรือตัวแทนส่งออกต้องส่งเอกสาร Final Loading List และ Final Loading Summary แก่ ESCO Planner ล่วงหน้า 12 ชั่วโมง ก่อนเวลาที่คาดว่าเรือจะเดินทางมาถึง (ETA) เพิ่มเติมจาก Final Loading Plan (ถ้ามี)
- หลังเวลาปิดรับตู้สินค้า (Cutoff Time) ของลานตู้สินค้า สายการเดินเรือหรือตัวแทนต้องส่งบัญชีตู้สินค้าที่ยกเลิกให้กับ ESCO Planner โดย เวลาปิดรับตู้สินค้าจะยึดตามระเบียบของการท่าเรือแห่งประเทศไทย
- ในกรณีที่ท่าเทียบเรือเต็ม สายการเดินเรือหรือตัวแทนต้องส่งบัญชีตู้สินค้ารอเข้าให้กับ ESCO Planner เพื่อป้องกันการล้าช้าและยกเลิกตู้สินค้า
งานบัญชี
- ลูกค้าสามาถชำระค่าใช้จ่ายตู้คอนเทนเนอร์ / สินค้าตามรายละเอียดใน Tarff ได้ที่แคชเชียร์ก่อนที่จะมารับตู้สินค้าหรือสินค่า
- ลูกค้าที่เป็นเครดิต Term จะได้รับแจ้งใบแจ้งหนี้ภายใน 7 วันหลังจากเรือออกจากท่าเทียบเรือไปแล้ว